ข้อควรรู้ในการเลือกใช้ ‘ยาแก้ปวดประจำเดือน’

แม่ๆ บ้านไหนทานยาแก้ปวดประจำเดือนกันบ้างคะ วันนี้เพจเจ้าตัวเล็กมีข้อควรรู้ในการเลือกใช้ยาแก้ปวดประจำเดือนมาฝาก จะมีอะไรบ้างมาดูพร้อมกันเลยค่ะ

ยาแก้ปวดประจำเดือน ถือเป็นตัวช่วยของผู้หญิงอย่างพวกเรา ยามที่มีอาการปวดท้องในช่วงวันนั้นของเดือน และแม้บางชนิดจะเป็นยาสามัญประจำบ้าน แต่ก็มีข้อควรระวังในการเลือกใช้ยาแก้ปวดประจำเดือนตามประเภทยาดังนี้ค่ะ

1) ยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) ได้แก่ ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ยานาพรอกเซน (Naproxen) ยาเมเฟนามิคแอซิด (Mefenamic Acid) หรือยาเซเลโคซิบ (Celecoxib)

ประวัติทางสุขภาพที่ควรระวัง : ผู้ที่มีอาการแพ้ยาในกลุ่มเอ็นเสด หรือมีแผลในระบบทางเดินอาหาร ป่วยด้วยโรคตับ หรือโรคไตอย่างรุนแรง โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคหอบหืด คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ที่ให้นมลูก และเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนการใช้ยา

ผลข้างเคียง : การใช้ยากลุ่มเอ็นเสดปริมาณสูงในระยะยาวอาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงได้ง่าย เช่น อาหารไม่ย่อย เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ง่วงซึม อาการแพ้ยา รวมไปถึงปัญหาเกี่ยวกับตับ ไต หัวใจหรือการไหลเวียนของเลือดด้วย แต่มักพบได้น้อยมาก

2) ยาพาราเซตามอล (Paracetamol)

ประวัติทางสุขภาพที่ควรระวัง : ผู้ที่มีอาการแพ้ยาพาราเซตามอล โรคตับ มีประวัติโรคพิษสุราเรื้อรัง รวมไปถึงคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ที่ให้นมลูก ควรปรึกษาคุณหมอและเภสัชกรก่อนการใช้ยา

ผลข้างเคียง : ยาพาราเซตามอลมักไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง แต่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ยา โดยอาการรุนแรงที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยเร็ว เช่น มีไข้ต่ำร่วมกับคลื่นไส้ ปวดท้อง ไม่อยากอาหาร ปัสสาวะเป็นสีเข้ม อุจจาระสีคล้ายดินโคลน ดีซ่าน เป็นต้น

 

Tag : #jaotourlek #child #baby #children #เจ้าตัวเล็ก #เลี้ยงเด็ก #parents #คุณพ่อคุณแม่ #พ่อ #แม่ #พ่อแม่ #ลูก #เด็ก #คนท้อง #ตั้งครรภ์ #คุณแม่ #มือใหม่ #แม่ #วันแม่